ELYSIUM
THE CITY OF FATE
ตามบันทึกประวัติศาสตร์กล่าวเอาไว้ว่า อาณาจักร Elysium เป็นอาณาจักรที่ได้รับผลกระทบจากสงครามน้อยที่สุด ประกอบกับสถานที่ตั้งของอาณาจักรอุดมไปด้วยพืชพรรณและปศุสัตว์ ทำให้ Elysium สามารถฟื้นตัวจากสงครามได้เร็วที่สุดในหมู่นครของมนุษย์ด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นหลังสงครามไม่ได้มีเพียงการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของนคร แต่ยังรวมถึงศาสนาและความเชื่ออีกด้วย นั่นก็คือ “ศาสนจักรแห่งแสงที่หลับใหล” (The Church of Sleeping Luminous) ที่เชื่อมั่นในอนาคตอันแสนสวยงามที่เกิดจากศักยภาพและความดีงามของมนุษยชาติ
ปัจจุบัน Elysium มีนครชื่อ “Araboth” เป็นนครศูนย์กลาง (เมืองหลวง) เป็นเกาะในอ่าวทางเหนือรายล้อมด้วยนครบริวารมากมาย ตัวนครมีการแบ่งเป็นหลายชั้นประกอบด้วย “Empyrean” เขตของชนชั้นสูง ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในเกาะอีกทีหนึ่ง โดยพื้นที่แห่งนี้นอกจากเป็นบ้านของชนชั้นสูงแล้วรวมเอาสถานที่สำคัญไม่ว่าทางศาสนาหรือการเมืองไว้ด้วยกัน ทั้งสภาโต๊ะกลม และมหาวิหารของศาสนจักรแห่งแสงที่หลับใหล
“Inner Sanctum” เขตของประชาชนทั่วไป พื้นที่ของลอร์ดผู้ครองที่ดิน และเหล่าคนมีฝันที่ตามหาอนาคตอันสดใส ผู้คนเหล่านี้ต้อนรับชนชั้นสูงจาก Empyrean ด้วยความคึกครื้นเสมอ ผิดกับผู้คนที่มาจากสลัมด้านล่างที่พวกเขาจะหลบตาและทำเหมือนพวกเขาไม่มีตัวตน
สุดท้าย “Outer Sanctum” เขตสลัมรอบนอกที่อยู่ใต้เงื้อมเงาของเขื่อนที่กั้นขวางคลื่นพิโรธของ Atlantis เอาไว้ อย่างไรก็ตามที่แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยสถานบริการที่ต่างจาก “Inner Sanctum” ทำให้หลายครั้งก็มีชนชั้นสูงลงมาที่เมืองแห่งนี้เพื่อ “การบริการพิเศษ” ที่ไม่สามารถหาได้จากด้านบน และยังเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย